
44
Downloads
3
Episodes
เล่าเรื่องราวการแก้ไขปัญหาด้านเทคนิค และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับการทําเว็บไซต์ รวมไปถึงแนวทางวิธีทําการตลาดออนไลน์ โดยใช้ Google Ads เป็นเครื่องมือสําคัญในการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ https://www.bigbang.co.th/Web-Design บริษัทรับทําเว็บไซต์ของเรามีประสปการณ์ รับทําเว็บไซต์เว็บไซต์นานกว่า 10 ปี ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า กลับใช้บริการหลังการขายด้วยการลงโฆษณา Google Ads ที่ทํายอดขายหลังจากเว็บไซต์เสร็จได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คําแนะนําทางการตลาดออนไลน์ ตอบทุกคําถามทุกข้อสงสัยให้กับลูกค้าของเราได้สบายใจ ว่ามีมืออาชีพคอยดูแลแก้ไขปัญหาได้อย่างสบายใจ ค่าบริการรับทําเว็บไซต์อยู่ในเกณฑ์ที่เป็นราคากลางค่อนไปทางถูก ซึ่งถือว่าเป็นราคาทําเว็บไซต์ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก หากท่านที่กําลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจทําเว็บไซต์ สามารถโทรสอบถามบริการกับทีม WebsiteBigbang ที่พร้อมให้คําแนะนำกับลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มที่ สามารถเข้าพบทีมงานรับทําเว็บไซต์ได้ที่บริษัทของเรา เดินทางสะดวกมีที่จอดรถเพียงพอสําหรับลูกค้าทุกท่าน เพื่อให้ท่านได้สอบถามพูดคุยกับทีมงาน และขอความกรุณานัดล่วงหน้า 1 วัน เพื่อให้เราได้จัดตารางนัด เพื่อให้เวลากับท่านได้อย่างเต็มที่
Episodes

Tuesday Aug 03, 2021
ลงโฆษณา google อย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด
Tuesday Aug 03, 2021
Tuesday Aug 03, 2021
ลงโฆษณา Google
การลงโฆษณา Google Ads จะว่าไปก็ไม่ได้ยากจนไม่สามารถทำเองได้ แต่ก็ไม่ง่ายหากต้องการลงโฆษณา Google สร้างยอดขายเหนือคู่แข่งในตลาด จะขอเล่าเรื่องราวของการลงโฆษณา Google ทั้ง 2 แบบ อ้างอิงจาก https://www.bigbang.co.th/Google-Adwords
1. ลงโฆษณา Google Ads แบบพื้นฐานทั่วไป
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นสินค้า หรือบริการแล้วสนใจที่จะลงโฆษณา Google ซึ่งสามารถเริ่มต้นทําเองได้ไม่ยาก เพียงซื้อหนังสือแล้วเปิดหนังสือทำตาม ก็สามารถลงโฆษณากับ Google ได้แล้ว ซึ่งไม่ยากเลยจะเหมาะกับกับผู้ที่เริ่มต้น และอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีการแข่งขันไม่มาก เพราะตัวระบบของ Google จะมีคำแนะนำสำหรับมือใหม่ให้อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำ Keywords ที่น่าสนใจ หรือการเลือกตั้งวัตถุประสงค์ของการลงโฆษณาเพื่ออะไร ให้ตัวระบบของ Google เองได้ตอบสนองความต้องการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงโฆษณาของเรา เช่น ต้องการให้คนเข้าเว็บไซต์เยอะๆ , ต้องการได้รับการติดต่อจากลูกค้าเยอะๆ , ต้องการเน้นอันดับสูงๆ เพียงเท่านี้ตัวระบบของ Google Ads ก็จะทําการนำโฆษณาของเราให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เราได้เลือกเอาไว้
ซึ่งการเลือกวัตถุประสงค์ในการลงโฆษณา Google Ads มีความสําคัญเป็นอย่างมาก เพราะมือใหม่จะมีความเข้าใจผิดอยู่ตรงที่ว่า ถ้าเราอยู่อันดับสูงๆ แล้วจะทําให้ได้รับการติดต่อจากลูกค้า หรือขายสินค้าได้มากขึ้น ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือเรา จะมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพื่อให้อยู่ในอันดับสูงๆ เป็นเงาตามตัวเลยทีเดียว จนไม่เหลือกำไร เนื่องจากหมดไปกับค่าโฆษณาที่สูงเพราะต้องการให้อยู่ในอันดับสูงๆ จึงเป็นเรื่องที่มือใหม่ต้องทำความรู้จักกับการลงโฆษณา Google Ads ด้วยเทคนิคที่ชื่อว่า "Conversion หรือ CPA" เป็นวิธีที่มุ่งเน้นจำนวนการติดต่อจากการลงโฆษณา Google มากกว่าที่จะเน้นอันดับสูงๆ หรือ เน้นให้คนเข้าเว็บไซต์เยอๆ ซึ่งรายละเอียดของเทคนิค CPA ผู้ให้บริการ AdsBigbang ได้อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายสำหรับมือใหม่อ่านเพิ่มเติมได้จากลิงค์ www.bigbang.co.th/News-โฆษณาGoogleAdwordsต้องเลือกใช้เทคนิ-142
แต่หากธุรกิจของท่านอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงแล้วหละก็ ความรู้เพียงพื้นฐานที่ทำตามหนังสือไม่เพียงพออย่างแน่นอน เพราะจำเป็นที่จะต้องเปิดโฆษณา Google แบบเน้นการติดต่อ หรือที่เรียกกันภาษาเทคนิคว่า "โฆษณาแบบ Conversion หรือ CPA" ซึ่งจำเป็นต้องตั้งค่าต่างๆ ในบัญชี Google Ads หลายส่วน รวมถึงเว็บไซต์ที่เราใช้ในการลงโฆษณา จะต้องมีการตั้งค่าให้สอดคล้องกันกับบัญชี Google Ads ของเราด้วย
2. ลงโฆษณา Google ด้วยเทคนิคขั้นสูง
ผู้ที่มีประสบการณ์ในการลงโฆษณา Google จะรู้ได้จากค่าคะแนนตัวเลขต่างๆ ที่ตัวระบบ Google Ads จะแสดงออกมาเมื่อเราได้ลงโฆษณาไปประมาณ 3-5 วัน ทำให้พอจะทราบได้ว่ากลุ่มธุรกิจนั้นๆ มีการแข่งขันที่สูง มีความยากหรือง่าย ต้องใช้เทคนิคแบบไหนให้สามารถสร้างความคุ้มค่าจากค่าโฆษณาที่เสียไป และตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้ที่ลงโฆษณามากน้อยเพียงใด
จากประสบการณ์ทําโฆษณา Google โดยส่วนใหญ่เจ้าของเว็บไซต์มักต้องการให้โฆษณาของตัวเองอยู่ในอันดับสูงเพื่อคาดหวังว่าจะได้รับการติดต่อจากผู้สนใจมากๆ ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่า การลงโฆษณา Google Ads นั้นเราจำเป็นต้องระบุกับระบบของ Google ว่าจะเลือกวัตถุประสงค์ของการลงโฆษณาคืออะไร โดยหากเราเลือกให้ระบบของ Google เน้นอันดับสูงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือโฆษณาของเราจะอยู่ในอันดับสูง ถึงแม้ว่าจะเป็นคนเดิมที่คลิกไปแล้ว 3-4 ครั้ง ในครั้งที่ 5 โฆษณาของเราก็จะยังอยู่ในอันดับสูงเช่นเดิม ซึ่งจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาที่สิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก โดยตัวระบบ Google Ads ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แล้ว จากการเลือกวัตถุประสงค์ของการลงโฆษณาคือ "เน้นอันดับสูง"
จากที่อธิบายข้างต้นแสดงให้เห็นว่า การกำหนดวัตถุประสงค์เป็นส่วนสำคัญในการลงโฆษณา Google Ads เป็นอย่างยิ่ง แต่การกำหนดวัตถุประสงค์ประเภทเน้น "Conversion หรือ CPA" นั้นจำเป็นที่จะต้องตั้งค่าเว็บไซต์ให้สอดคล้อง ส่งข้อมูลจากเว็บไซต์กลับไปยังแคมเปญของ Google Ads ให้สมบูรณ์ ซึ่งตรงนี้เอง ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ทําให้หลายคน ยังไม่สามารถเปิดแคมเปญแบบเน้น "Conversion หรือ CPA" ได้
สำหรับการทําเว็บไซต์ให้สามารถรองรับการลงโฆษณา Google Ads เปิดแคมเปญแบบเน้น "Conversion หรือ CPA" จำเป็นที่จะต้องสอบถามกลับไปยังผู้ให้บริการทําเว็บไซต์ว่ารองรับการติดตั้ง Conversion จากการลงโฆษณา Google หรือไม่ ซึ่งเป็นหัวใจสําคัญของการลงโฆษณา Google โดยใช้เทคนิคขั้นสูงได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนที่จะลงโฆษณา Google Ads
มีทีมงาน WebsiteBigbang ที่เป็นผู้ให้บริการรับทําเว็บไซต์ เค้ามีระบบที่รองรับกับการเปิดโฆษณา Google Ads แบบเน้น "Conversion หรือ CPA" จะส่งผลให้ท่านสามารถเริ่มต้นใช้เทคนิคโฆษณา Google Ads ขั้นสูงได้ด้วยเทคโนโลยีของเว็บไซต์ที่รองรับมีไว้ให้ได้ใช้งาน เชื่อมต่อระบบเว็บไซต์เข้ากับ Google Ads ได้อย่างสมบูรณ์
อ้างอิงจาก
AdsBigbang ผู้ให้บริการรับทำ google ads
https://www.bigbang.co.th/Google-Adwords

Friday May 14, 2021
ออกแบบโลโก้รูปทรงสัญลักษณ์ กับทําโลโก้ชื่อแบรนด์ตัวอักษร แบบไหนดีกว่ากัน
Friday May 14, 2021
Friday May 14, 2021
รับออกแบบโลโก้
เราคือนักออกแบบโลโก้ที่มีประสบการณ์ ด้านการออกแบบโลโก้ยาวนานกว่า 10 ปี ผลงานออกแบบโลโก้มากมาย https://www.bigbang.co.th/Logo-Design จะมาอธิบายถึงความแตกต่างของโลโก้ที่มีรูปทรงสัญลักษณ์ เปรียบเทียบกับโลโก้ที่เป็นแบบตัวอักษร มีข้อดี ข้อเสีย ข้อแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนจะดีกว่า เพื่อใช้เป็นแนวทางตัดสินใจให้กับผู้ที่กําลังเริ่มต้นทําโลโก้
ออกแบบโลโก้โดยใช้รูปทรงสัญลักษณ์ จะสามารถสร้างจดจำได้ดีกว่า แม้เห็นเพียงแวบเดียว เพราะรูปทรงที่นำไปใช้ในการออกแบบโลโก้ส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นรูปทรงเลขาคณิต ถึงแม้จะมีรูปภาพ สัญลักษณ์ ลวดลายต่างๆ อยู่ภายในโลโก้ก็ตาม จะยังคงแสดงอยู่ภายใต้รูปทรงที่นักออกแบบโลโก้ได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น สี่เหลี่ยมผืนผ้า, โลโก้ทรงวงกลม, สัญลักษณ์วงรี หรือ โลโก้ทรงสามเหลี่ยมก็ตาม เพียงแต่ภายในรูปทรงนั้นอาจมีรายละเอียดของภาพ อักษรย่อ หรือสัญลักษณ์ซ้อนอยู่ โลโก้รูปทรงเรขาคณิตนั้น สามารถสร้างการจดจำได้ทันที
อ้างอิงเนื้อหา
ทีมนักออกแบบโลโก้ LogoBigbang
https://www.bigbang.co.th/Logo-Design
ถึงแม้ผู้พบเห็นโลโก้จะยังจดจำรายละเอียดภายใต้รูปทรงนั้นไม่ได้ก็ตาม และนอกเหนือจากรูปทรงที่จดจำได้ในครั้งแรกแล้ว ยังมีเรื่องของสีที่จดจำไปได้พร้อมกันกับรูปทรง เมื่อพบเห็นในแวบแรก สำหรับการจดจำในรายละเอียดของโลโก้แบบรูปทรงสัญลักษณ์ จะทำให้ผู้พบเห็นโลโก้คุ้นชิ้น และจดจำได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับรายละเอียด ของนักออกแบบโลโก้ที่จะออกแบบภายใต้รูปทรงนั้น นอกจากมีจุดเด่นในเรื่องของการสร้างภาพจำได้ดีแล้ว ยังเหมาะกับการทําโลโก้ในตลาดต่างประเทศอีกด้วย เพราะการออกแบบโลโก้โดยใช้รูปทรงสัญลักษณ์นั้นจะอาศัย ภาพ ลวดลาย หรือตัวอักษรย่อ ช่วยให้การทำแบรนด์ในตลาดต่างประเทศไม่มีข้อจำกัด ในเรื่องของการสะกดอ่านชื่อแบรนด์ภายในโลโก้ เพราะแต่ละประเทศจะใช้ภาษาที่แตกต่างกันนั้นเอง ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี และมีจุดเด่นเป็นอย่างมาก
ทําโลโก้
ทําโลโก้โดยใช้ชื่อตัวอักษร มีข้อดีคือสามารถสร้างชื่อแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักเอ่ยถึงได้ง่ายกว่า เพราะในเวลาที่เรานำโลโก้ไปใช้งานไม่ว่าจะในนามบัตร เว็บไซต์ หรือสื่อโทรทัศน์ก็ตาม ในขณะที่คนเห็นโลโก้ของเรานั้น ก็จะสามาถสะกดอ่านชื่อแบรนด์ของเราได้ทันที ซึ่งแตกต่างจากการทําโลโก้โดยใช้รูปทรงสัญลักษณ์ ที่จะสะกดอ่านไม่ได้ จึงถือว่าเป็นเรื่องได้เปรียบกว่า หากต้องการให้แบรนด์ของเราเป็นที่เอ่ยถึง รู้จักได้รวดเร็ว แต่หากนักออกแบบโลโก้ที่ไม่มีความเข้าใจในความได้เปรียบของการใช้ชื่อแบรนด์มาทำเป็นโลโก้แล้ว ก็จะทําโลโก้ที่มีชื่อแบรนด์ให้อ่านยาก สะกดแยกคำยาก ก็จะทำให้เสียโอกาสในความได้เปรียบไปอย่างน่าเสียดาย
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของการออกแบบโลโก้ที่เป็นตัวอักษรนั้น ควรเลือกใช้ตัวอักษรภาษาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น บริษัทรับออกแบบโลโก้มีชื่อแบรนด์ว่า "LogoBigbang" แล้วไปโฆษณาให้กับผู้ที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก จะทำให้เสียโอกาสไปเช่นกัน ฉะนั้นชื่อแบรนด์ที่นำมาใช้ในโลโก้นั้น ควรที่จะเป็นตัวอักษรภาษาเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นลูกค้าของเรา
จะเห็นได้ว่าจากที่อธิบายมานั้น ขั้นตอนออกแบบโลโก้มีรายละเอียดอีกมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องของนักออกแบบโลโก้จะต้องมีความเข้าใจ สำหรับมุมมองของเจ้าของแบรนด์นั้น อาจจะดูเพียงความสวยงาม ดูจากสีที่ถูกใจ แต่อาจไม่ถูกใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็เป็นได้ ควรที่จะหาจุดตรงกลางกับนักออกแบบ ว่าสามารถปรับแต่ง อธิบายความต้องการ ให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ว่าสามารถทําได้มาก หรือทําได้น้อยเพียงใด เชื่อว่านักออกแบบโลโก้ที่มีประสบการณ์จะสามารถทําโลโก้ออกแบบมาให้ตรงกับกลุ่มเป้า และถูกใจเจ้าของแบรนด์อย่างแน่นอน
ข้อสรุปเรื่องการเปรียบเทียบออกแบบโลโก้ตัวอักษร และโลโก้รูปทรงสัญลักษณ์นั้นไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่า แบบไหนดีกกว่ากัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการนำไปใช้งานในแต่ละธุรกิจ แต่คราวนี้ก็พอจะเข้าใจแล้วว่า ข้อดี ข้อเสีย ของโลโก้แต่ละแบบ เป็นอย่างไร คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นออกแบบโลโก้บ้างไม่มาก ก็น้อย
สามารถกดฟังได้ที่ Podcast อธิบายความแตกต่างโลโก้ทั้ง 2 แบบ ฟังได้แบบสบายเพิ่มเป็นช่องทางได้รับความเข้าใจได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องอ่าน
รับออกแบบโลโก้
สุดท้ายนี้หากท่านที่สนใจว่าจ้างนักออกแบบโลโก้มืออาชีพ มีประสบการณ์ที่จะทําโลโก้ได้ตรงความต้องการ ออกแบบโลโก้อย่างเข้าใจในเรื่องสัญลักษณ์ รูปทรง และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ท่าน สามารถเลือกใช้บริการกับทีมนักออกแบบ LogoBigbang ได้ที่ https://www.bigbang.co.th/Logo-Design

Thursday May 06, 2021
วิธีแก้ปัญหาการตั้งชื่อเว็บไซต์อย่างไร ไม่ให้ซ้ำกับเว็บไซต์คนอื่น
Thursday May 06, 2021
Thursday May 06, 2021
รับทำเว็บไซต์
เป็นเรื่องปกติสําหรับการคิดชื่อเว็บไซต์ไว้มากมายหลายชื่อ แต่พอไปตรวจสอบเช็คชื่อเว็บไซต์กับบริษัทรับทําเว็บไซต์ แล้วมักพบว่าชื่อเว็บไซต์จะไปซ้ำกับเว็บไซต์ของคนอื่นอยู่เป็นประจำ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรตามฟังกันดู
คําแนะนําเบื้องต้นสําหรับผู้ที่กําลังเริ่มต้นทําเว็บไซต์ การตั้งชื่อเว็บไซต์นั้นจะมีข้อกําหนดอยู่บ้าง เช่น ไม่สามารถใช้ตัวอักษรที่มีอักขระพิเศษ ใช้ได้เพียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ a-z และ 0-9 อักษรที่เป็นลักษณะพิเศษอนุญาติให้ใช้ได้เพียงตัวเดียวนั้นคือ - หรือที่เราเรียกันว่า "ตัวขีดกลาง" เท่านั้น โดยตัวอักษรภาษาอังกฤษจะเป็นพิมพ์เล็ก หรือพิมพ์ใหญ่ สามารถใช้ได้ทั้งนั้น ระบบเว็บไซต์จะมองว่าเป็นตัวอักษรตัวเดียวกัน คือมองเป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด แต่มันจะสะดวกเวลาเราพิมพ์ลงนามบัตร หรือพิมพ์ให้คนอื่นเห็น เพื่อสะกดอ่านได้ง่าย
ในส่วนของราคาค่าชื่อเว็บไซต์นั้นจะต้องจ่ายประจําทุกปี โดยส่วนใหญ่บริษัทรับทำเว็บไซต์จะเรียกเก็บเมื่อครบกําหนด 1 ปี นับจากวันที่จดทะเบียนชื่อเว็บไซต์ ซึ่งมักจะเรียกเก็บพร้อมกับพื้นที่เว็บไซต์รวมกันไปเลย แต่บางท่านได้ทําการลงทะเบียนจดชื่อเว็บไซต์ไว้เอง กับบริษัทรับจดทะเบียนชื่อเว็บไซต์โดยเฉพาะ ก็จะมีราคาตั้งแต่ปีละ 300-500 บาท สำหรับชื่อเว็บไซต์นามสกุล .com และถ้าเป็นชื่อเว็บไซต์นามสกุล .co.th จะมีค่าบริการปีละ 1,200-1,500 บาท
อ้างอิงเนื้อหารับทำเว็บไซต์
WebsiteBigbang
https://www.bigbang.co.th/Web-Design
เมื่อเราจดทะเบียนชื่อเว็บไซต์ได้แล้ว นอกจากจะมีชื่อเว็บไซต์เพื่อใช้งานประชาสัมพันธ์บริษัท ร้านค้า เพื่อนําเสนอขายสินค้าหรือบริการแล้ว ยังสามารถใช้เป็นอีเมล์ ภายใต้ชื่อเว็บไซต์ของเราเองได้อีกด้วย ซึ่งจะทําให้มีความน่าเชื่อถือเวลาติดต่อส่งอีเมล์ ระหว่างบริษัทคู่ค้าของเรา
รับทําเว็บไซต์
สิ่งสำคัญนอกจากการเลือกชื่อเว็บไซต์ให้เหมาะสมแล้ว ในขั้นตอนของการจดทะเบียนชื่อเว็บไซต์นั้น จะมีช่องให้ระบุชื่อเจ้าของโดเมน ที่อยู่ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเป็นข้อมูลจริงของเราเอง โดยชื่อเจ้าของเว็บไซต์อาจใช้เป็นชื่อบริษัท หรือชื่อตัว โดยต้องระบุเป็นภาษาอังกฤษ แต่หากท่านไม่ได้เป็นผู้จดทะเบียนโดเมนชื่อเว็บไซต์เอง ให้ทางผู้บริการเว็บไซต์เป็นผู้จดให้สามารถแจ้งให้ทางผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ระบุชื่อ และที่อยู่เป็นของท่านเองได้เช่นกัน และควรตรวจสอบเอกสารว่า ชื่อเว็บไซต์นั้นเป็นสิทธิ์ของเรา หรือเป็นสิทธิ์ของผู้ที่ทำเว็บไซต์ให้เรา เพราะจากที่ได้รับฟังปัญหาจากลูกค้ามา มักพบว่าไม่สามารถย้ายโดเมนออกมาจากผู้ให้บริการเดิมได้ ด้วยสาเหตุหลายอย่างทั้งทางด้านเทคนิค หรือเงื่อนไขการซื้อเว็บไซต์ตั้งแต่ต้น ฉะนั้นควรตรวจสอบเอกสารโดเนม หรือสอบถามให้แน่ใจว่าเราสามารถย้ายโดเมนออกได้หรือไม่ เป็นสิทธิที่เราทำได้หรือไม่
จะเห็นได้ว่าชื่อเว็บไซต์นั้นเป็นเรื่องที่น่าจะเข้าใจได้ง่าย ไม่น่ามีปัญหาอะไร ใครๆ ก็สามารถจดชื่อเว็บไซต์ได้ แต่ในความเป็นจริงยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอยู่อีกหลายส่วน ทั้งส่วนของนามสกุลโดเมนที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน, การใช้งานอีเมล์คู่กับชื่อเว็บไซต์ของเรา และค่าบริการที่ต้องเสียทุกปี แถมยังมีราคาที่แตกต่างกัน ตามแต่ละนามสกุลของชื่อเว็บไซต์ ที่เป็น .com ก็จะถูกหน่อย แต่ติดปัญหาคือ มักจะซ้ำกับชื่อเว็บไซต์ของคนอื่น ซึ่งรายละเอียดต่างๆ พวกนี้อยากให้ลองปรึกษาบริษัทที่กําลังจะใช้บริการรับทําเว็บไซต์ให้กับท่าน สอบถามดูได้ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ให้บริการรับทําเว็บไซต์ส่วนใหญ่ จะเข้าใจและอธิบายได้ครบถ้วน
ทําเว็บไซต์
หลังจากที่ได้ชื่อเว็บไซต์อย่างที่ตั้งใจกันแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการเริ่มต้นทําเว็บไซต์ ที่สามารถเลือกทําเว็บไซต์เอง หรือเลือกใช้บริการผู้ให้บริการทําเว็บไซต์ ซึ่งมักจะถูกกำหนดจากงบประมาณไว้อยู่แล้ว ว่าเราควรที่จะเลือกทําเว็บไซต์เอง หรือจ้างบริษัททําเว็บไซต์ ก็ขึ้นอยู่กับความรู้ของแต่ละท่าน เพราะเว็บไซต์ฟรีก็ต้องใช้ความสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ถึงแม้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ฟรี จะบอกว่าระบบใช้งานง่ายเพียงใด ก็ยังมีความยากอยู่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ แต่หากท่านไม่ต้องการที่จะเรียนรู้การใช้งาน แนะนำให้เลือกใช้บริการบริษัททําเว็บไซต์ จะดีกว่า เพราะท่านจะได้เทคโนโลยีที่พัฒนาได้ตรงกับความต้องการ ไม่ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เรื่อย เพราะตัวเว็บไซต์เอง ก็มีการพัฒนาข้อกำหนด มาตรฐานต่างๆ อยู่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
อยากให้ลองติดตามฟังกัน ว่ามีเทคนิคที่บริษัทรับทําเว็บไซต์ เค้าแนะนําให้กับผู้ที่กําลังสนใจเริ่มต้นทําเว็บไซต์นั้นมีวิธีอะไรบ้าง ที่จะช่วยแก้ปัญหาการตั้งชื่อเว็บไซต์ซ้ำ